Accessibility Tools

ศาลแขวงราชบุรี
Ratchaburi Kwang Court

เกี่ยวกับหน่วยงาน
image

ศาลแขวงราชบุรี

ประวัติความเป็นมา/ข้อมูลทั่วไปของหน่วยงานimage
image
ประวัติศาลแขวงราชบุรี
       ศาลแขวงราชบุรี จัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกา เปิดทำการเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2500 มีเขตอำนาจครอบคลุมพื้นที่ปกครองของจังหวัดราชบุรีทั้งหมด 10 อำเภอ ตั้งแต่เริ่มเปิดทำการ ศาลแขวงราชบุรีได้ใช้อาคารที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2449 สมัยราชการที่ 5และเคยใช้เป็นที่ทำการของศาลมณฑลราชบุรี ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 1 ถนนวิชิตสงคราม ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
เป็นที่ทำการในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีและให้บริการแก่คู่ความและประชาชน ตลอดมา 

ต่อมาสำนักงานศาลยุติธรรมเห็นว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่า มีความคับแคบ มีห้องพิจารณาคดีเพียง 3 บัลลังก์ ประกอบกับ
กรมศิลปากรประกาศให้อาคารและที่ดินขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน
จึงได้ก่อสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นเป็นอาคารขนาด 8 บัลลังก์ แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2564 จากนั้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2564
ศาลแขวงราชบุรี ได้ย้ายมาใช้อาคารที่สร้างขึ้นใหม่ซึ่ง
ตั้งอยู่ที่เลขที่ 115 หมู่ที่ 3 ตำบลน้ำพุ อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เป็นที่ทำการมาจนถึงปัจจุบัน 

-------------------------------------- -------------------------------------------------------------   
         ศาลแขวงราชบุรีในอดีต  

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 ศาลแขวงราชบุรี  เดิมเรียกว่า  โปรีสภา  ได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติจัดตั้ง  
ศาลโปรีสภา เมื่อ  ร.ศ.  111  โดยตั้งขึ้นครั้งแรกที่กรุงเทพมหานคร ต่อมาเมื่อปี ร.ศ.  113  ได้ประกาศตั้งศาลโปรีสภาขึ้นในกรุงเทพมหานครอีก  3  ศาล ต่อมาเมื่อ ปี  ร.ศ.  114  ได้ยุบสภาโปรีสภา  1 ศาล เหลือโปรีสภาเพียง  3  ศาล  คือ
ศาลโปรีสภาที่  1  เขตอำนาจทางทิศเหนือนับแต่ปากคลองโอ่งอ่างด้านใต้เลื่อนไปตามฝั่งคลองโอ่งอ่างฝั่งใต้ถึงคลองแยกมหานาค  เลี้ยวไปตามคลองมหานาคฝั่งใต้จนถึงคลองแสนแสบตลอดคลองนั้นไปจนจรดเขตอำเภอมีนบุรี  ทิศตะวันตกนับแต่ปากคลองโอ่งอ่างตอนใต้ ลงไปตามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกจนจรดเขตจังหวัดสมุทรปราการ  ทางทิศอื่นติดต่อกับเขตอำเภอมีนบุรี  อำเภอลาดกระบัง  และจังหวัดสมุทรปราการ
ศาลโปรีสภาที่  2   มีเขตอำนาจทางตอนเหนือของจังหวัดพระนคร  ทิศใต้นับแต่ ปากคลองโอ่งอ่างตอนใต้ไปตามฝั่งคลองโอ่งอ่างจนถึงคลองแยกมหานาค  แล้วถือแนวไปตามคลองแยกมหานาค  จนถึงคลองแสนแสบ  ตลอดไปถึงเขตมีนบุรี  ส่วนทางทิศตะวันตกนับแต่ ปากคลองโอ่งอ่าง  ตอนใต้ขึ้นไปตามฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา  ด้านตะวันตกจรดแนวเขตแดนจังหวัดนนทบุรีและจังหวัดปทุมธานี
ศาลโปรีสภาที่  3  มีเขตอำนาจในจังหวัดธนบุรีทั้งหมด  รวมทั้งเขตแม่น้ำเจ้าพระยา ทั้งสายเท่าที่อยู่ในเขตธนบุรี  ซึ่งทางทิศเหนือจรดจังหวัดนนทบุรี  ทิศใต้จรดจังหวัดสมุทรปราการเมื่อประกาศใช้พระธรรมนูญศาลยุติธรรม  พ.ศ.  2478  ได้เปลี่ยนชื่อศาลโปรีสภา เป็นศาลแขวง  และในปี  พ.ศ.  2478  ได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงสำหรับจังหวัดพระนครและจังหวัดธนบุรี  พ.ศ.  2478  ให้ตั้งศาลแขวงพระนครใต้  ศาลแขวงพระนครเหนือ  และศาลแขวงธนบุรีขึ้น  ซึ่งมีเขตอำนาจเดิมของศาลโปรีสภา  ที่  1  ที่  2  ที่  3  ตามลำดับ ส่วนในหัวเมืองนั้นได้มีพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงสำหรับหัวเมือง  พ.ศ.  2478  โดยให้ตั้งศาลแขวงขึ้นโดยกฎกระทรวง  เช่น กฎกระทรวงฉบับที่  1  ให้ตั้งศาลแขวงมีนบุรี ศาลแขวงแม่สะเรียง  ศาลแขวงหลังสวน  ในปี  พ.ศ.  2478กฎกระทรวงฉบับที่  2  ให้ตั้งศาลแขวงแม่สอด ศาลจังหวัดตะกั่วป่า ปี พ.ศ. 2479 กฎกระทรวงฉบับที่  3  ให้ตั้งศาลแขวงกบินทร์บุรี ในปี  พ.ศ.  2480 กฎกระทรวงฉบับที่  4  ให้ตั้งศาลแขวงเบตง ในปี  พ.ศ.  2482 ต่อมาในมีการยกฐานะของศาลแขวงทั้งหมดดังกล่าวข้างต้นขึ้นเป็นศาลจังหวัด ครั้นต่อมาเมื่อปีพ.ศ.  2499 จึงได้เปิดทำการศาลแขวงในหัวเมืองขึ้นอีกครั้งหนึ่ง  โดยเปิดขึ้นทั้งหมด  14  ศาล  โดยอาศัยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแขวงและวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวง  พ.ศ.  2499  ซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าวกำหนดจัดตั้งศาลแขวงโดยพระราชกฤษฎีกา   

 

 

 

 

 

 

 

 

พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศาลแขวงขึ้น 
17  ศาล  ในปี  พ.ศ.  2500  ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา  ศาลแขวงลพบุรี ศาลแขวงชลบุรี  ศาลแขวงนครราชสีมา  ศาลแขวงสุรินทร์  ศาลแขวงอุบลราชธานี ศาลแขวงอุดรธานี  ศาลแขวงขอนแก่น 
ศาลแขวงเชียงใหม่  ศาลแขวงลำปาง  ศาลแขวงพิษณุโลก  ศาลแขวงนครสวรรค์  ศาลแขวงราชบุรี  ศาลแขวงสุพรรณบุรี ศาลแขวงนครศรีธรรมราช  ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี  และศาลแขวงสงขลา
                  ศาลแขวงราชบุรีเคยสังกัดกระทรวงยุติธรรม  พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง  ทบวง  กรม  พ.ศ.  2534  มาตรา  21  บัญญัติให้กระทรวงยุติธรรม  มีอำนาจเกี่ยวกับการยุติธรรมแต่ไม่รวมถึงการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี  พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน  พ.ศ. 2534  มาตรา  20  บัญญัติว่า ภายใต้บังคับบทบัญญัติมาตรา  11  กระทรวงหนึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ  และกำหนดนโยบายของกระทรวงให้สอดคล้องกับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีกำหนดหรืออนุมัติ  และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของกระทรวง  และพระธรรมนูญศาลยุติธรรม  มาตรา  1  วรรคสอง  บัญญัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม  เป็นผู้รับผิดชอบในงานธุรการของศาลทั้งหลายที่สังกัดอยู่ในกระทรวงยุติธรรม  แต่การพิจารณาคดีรวมตลอดถึงการที่จะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาบังคับคดีให้เสร็จเด็ดขาดอยู่ในดุลพินิจของศาลศาลยุติธรรมแยกออกจากกระทรวงยุติธรรมตามผลของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย  พุทธศักราช  2540  มาตรา  275  ที่บัญญัติให้ศาลยุติธรรม  มีหน่วยงานธุรการที่เป็นอิสระและกฎหมายประกอบรัฐธรรม  คือ  พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ.  2543  ประกาศใช้เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2543 และมีผลบังคับใช้หลังประกาศ  60  วัน  คือ วันที่ 20 สิงหาคม  2543
 ศาลแขวงราชบุรี เดิม 
ก่อนวันที่ 16 สิงหาคม 2564 

ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง  จังหวัดราชบุรี  อาคารศาลแขวงราชบุรี  ตั้งอยู่ที่ถนนวิชิตสงคราม ในที่ดินของราชพัสดุ  สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 
ตรงกับ  ร.ศ.  125 หรือ พ.ศ.  2449  เพื่อใช้เป็นที่ทำการศาลมณฑลราชบุรี ต่อมาในปี  พ.ศ. 2476  ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว  ได้ทรงยกเลิกศาลมณฑลราชบุรี ตั้งเป็นศาลจังหวัด  อาคารหลังนี้จึงเป็นที่ทำการศาลจังหวัดราชบุรีมาจนกระทั่งถึง  พ.ศ.  2500 หลังจากนั้นใช้เป็นที่ทำการศาลแขวงราชบุรี  เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน  2  ชั้น บานประตูและหน้าต่างเป็นไม้ฉลุลาย  หลังคาทรงจั่ว  ตรงหน้าบันเป็นลวดลายปูนปั้น  ตราประจำรัชกาลที่  5  ภายในมีบันไดเวียนขึ้นชั้นบนทั้งสองชั้น  มีห้องโถงอยู่ตรงกลาง และมีห้องปีกทั้งสองข้าง  ลักษณะของอาคารเป็นแบบตะวันตกที่นิยม ในสมัยรัชกาลที่  5  กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนอาคารศาลแขวงราชบุรี  เป็นโบราณสถานโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา  7  แห่งพระราชบัญญัติโบราณสถานโบราณวัตถุและพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ  พ.ศ.  2504  ประกาศณ  วันที่  27  เมษายน   2520  (ราชกิจจานุเบกษา  เล่มที่  94  ตอนที่  39 )  ที่ดินของโบราณสถานศาลแขวงราชบุรี  โดยประกาศ  ณ  วันที่  29  ธันวาคม พ.ศ.  2531  (ราชกิจจานุเบกษา  เล่มที่  106  ตอนที่  26  วันที่  18  กุมภาพันธ์  2532)
   


        
           

                                                                                                                       

       

 

 

 

 


image รูปภาพ
image
image